สุดยอด 10 อันดับ หูฟังบลูทูธไร้สาย (Bluetooth)
10 อันดับ หูฟังบลูทูธไร้สาย แบรนด์ดังในไทย
1. KLIPSCH T5 II True Wireless ANC McLaren
- หูฟังไร้สายพร้อมแท่นชาร์จพรีเมี่ยม
- หูฟังบลูทูธตัดเสียงรบกวน
- การตอบสนองความถี่ 10Hz-19kHz
- Dynamic Moving Coil ขนาด 5.8 มิลลิเมตร
- เสาอากาศมาแบบ Signal-Boost Antenna
- ระบบเสียง Dirac HD Sound
- ระบบ Noise Cancellation
- เทคโนโลยี Bragi Moves
- Transparency Mode
- ไมโครโฟน 6 ตัว แบบ Beamforming
- จุกหูฟังแบบ Over Ear Tips 6 ไซส์
- กันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IPX4 (เฉพาะหูฟัง)
- มีแท่นชาร์จที่สามารถชาร์จได้ 2 ตำแหน่ง
- ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น Klipsch Connect ในสมาร์ทโฟนได้
2. Edifier W320TN
- หูฟังไร้สายทรง earbud ตัวท้อปของซีรี่ย์จาก Edifier
- โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ตัดเงียบเกินทรงเอียร์บัด
- โหมดฟังเสียงรอบข้าง Ambient Sound ฟังเสียงรอบตัวผ่านหูฟังได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- มีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ Wearing Detection ถอดหูฟังเพลงหยุดอัตโนมัติ เปิด-ปิดเซนเซอร์ได้
- ไมโครโฟน 6 ตัวสำหรับสนทนาสาย พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์ AI Algorithm
- มาตรฐานการกันนํ้าและฝุ่น IP54 ใส่ออกกำลังกายเบาๆได้
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 รองรับ SBC และ LDAC
- ผ่านการรับรองมาตรฐานการกันฝุ่นและนํ้าที่ระดับ IP54
- ไดร์เวอร์แบบไดนามิคขนาด 13 มม. ตอบสนองย่านเสียงได้กว้างแทบทุกย่านความถี่
- ควบคุมฟังก์ชั่นโดยใช้วิธีการบีบก้านหูฟัง (Pinch)
- รองรับแอปพลิเคชัน Edifier Connect (iOS & Android)
- แบตเตอรี่สูงสุด 3.5+14 ชม. รวมสูงสุด 17.5 ชม.
3. Jabra Elite 10
- หูฟัง True Wireless ที่ผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของ Jabra
- Jabra Advanced Active Noise Cancellation ช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้นเป็น 2 เท่า
- ไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. พร้อมระบบเสียง Spatial Sound เพื่อให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม
- Dolby Head Tracking ช่วยจับการเคลื่อนไหว ทำให้เสียงเคลื่อนที่ไปพร้อมกับตัวคุณ
- ใส่สบายตลอดทั้งวันด้วยเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ซึ่งช่วยลดแรงดันภายในหู
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ 6 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัด สดใส ทุกสภาพแวดล้อม
- Bluetooth Multipoint Connection ช่เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
- ปรับแต่ง EQ และรูปแบบการใช้งานได้ตามต้องการ ผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP57
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ
4. MARSHALL MOTIF II A.N.C. BLACK
- เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ไปกับคุณได้ทุกที่
- เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนคุณภาพที่เหนือชั้นกว่า
- เล่นได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง แม้จะเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนอยู่
- การฟังเพลงของคุณด้วย Motif II A.N.C. ที่รองรับมาตรฐาน BT LE Audio
- ระบบรักษาคุณภาพของแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้น
- ชาร์จได้ทุกที่ ตามใจคุณต้องการ
5. Technics หูฟังบลูทูธ True Wireless รุ่น EAH-AZ60E
- หูฟังไร้สายความละเอียดสูง LDAC™ เสียงทรงพลัง ไมค์ Beamforming ตัดเสียงรบกวน
- เอกลักษณ์ของห้องเสียง ฮาร์โมไนเซอร์ และไดรเวอร์ 8 มม. มอบเสียงที่คมชัด รู้สึกได้ถึงทุกมิติของเสียง
- รองรับเสียงไร้สายความละเอียดสูงแบบ LDAC™ 96 kHz/24 บิต
- คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบ เพลิดเพลินไปกับทุกท่วงทำนองเสียงอันทรงพลัง
- ไมโครโฟนคุณสมบัติลดเสียงรบกวนจากลม 8 ตัว
- เทคโนโลยี JustMyVoice™ ที่ช่วยแยกและขยายเสียงพูด พร้อมทั้งลดเสียงรบกวนรอบข้าง
- ผสมผสานระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Feedback และ Feedforward เข้ากับการประมวลผลแบบแอนะล็อกและดิจิทัลเพื่อเสียงที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
- ดีไซน์ที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา ให้คุณสวมใส่กระชับสบายหูด้วยจุกหูฟังซิลิโคน 7 ขนาด
- ใช้คู่กับแอป Panasonic Audio Connect ใหม่* รองรับ 5 ฟังก์ชัน: การจับคู่ที่ง่ายดาย
- ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 7 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว เมื่อเปิดใช้งาน ANC
- ชาร์จรวมได้สูงสุด 24 ชั่วโมงในเคสชาร์จขนาดกะทัดรัด
- สามารถใช้งานได้ถึง 70 นาทีด้วยการชาร์จด่วน
- ฟังก์ชัน Multipoint Pairing เชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ Bluetooth® ได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง
- Voice Assistants ใช้งานฟังก์ชัน"Voice Assistant" ในสมาร์ทโฟน
6. Sony หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สาย WF-C700N
- น้ำหนัก:ประมาณ 4.6 กรัม x 2 (รวมจุกเอียร์บัด (กลาง))
- ประเภทหูฟัง:ปิด
- ไดรเวอร์ยูนิต:5 มม.
- การตอบสนองความถี่ (การสื่อสาร Bluetooth®):20 Hz - 20,000 Hz (การสุ่มตัวอย่าง 44.1 kHz)
- การควบคุมระดับเสียง:ได้
- ป้องกันน้ำ:มี (IPX4)
- DSEE:ได้
- เวลาการชาร์จแบตเตอรี่:ประมาณ 1.5 ชม.
- วิธีการชาร์จแบตเตอรี่:ชาร์จผ่านช่อง USB (จากกล่อง)
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ (เวลาการเล่นเพลงต่อเนื่อง):สูงสุด 7.5 ชั่วโมง (เปิด NC) / สูงสุด 10 ชั่วโมง (ปิด NC)
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ (เวลาการสื่อสารต่อเนื่อง):สูงสุด 5 ชั่วโมง (เปิด NC) / สูงสุด 5 ชั่วโมง (ปิด NC)
7. Soundcore Liberty 4
- เพลิดเพลินกับเสียงเบสที่ลึกและหนักแน่น เสียงกลางที่แม่นยำ และเสียงแหลมที่คมชัด
- ไดรเวอร์ไดนามิกคู่ ทั้งยังมีช่วงความถี่ที่กว้าง เพื่อการฟังที่มีรายละเอียดเสียงครบถ้วนที่สุด
- ไม่พลาดทุกประสบการณ์เสียงรอบทิศทางแม้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะมี built-in gyroscope and spatial audio algorithm ที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหว
- คุณภาพเสียงที่เข้ากับตำแหน่ง ปรับให้เข้ากันไม่ว่าจะฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์
- ออกแบบโครงสร้างสองชั้นพร้อมเพิ่มความยืดหยุ่น
- ปรับให้เข้ากับช่องหู ทำให้สวมใส่สบายตลอดเวลาที่สวมใส่
- จุกหูฟัง 4 ขนาดให้เลือกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความกระชับได้ตามต้องการ
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ผ่าน soundcore Wellness
- วิเคราะห์การได้ยิน เพื่อสร้างโปรไฟล์เสียงโดยเฉพาะ
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ ( ANC )
- ใช้งานได้ 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- สามารถชาร์จผ่านเคสได้ถึง 28 ชั่วโมง
- ตัวเคสรองรับการชาร์จแบบ Wireless Charger
8. Redmi Buds 5 Pro
- เสียงไร้สายความละเอียดสูง คุณภาพเสียง Hi-Fi
- ขนาดหูฟัง: 6.5 มม. (สูง) × 6.5 มม. (กว้าง) × 29.7 มม. (ลึก)
- ขนาดกล่องชาร์จ: 61 มม. (สูง) × 46.8 มม. (กว้าง) × 25 มม. (ลึก)
- ตัวหูฟังหนักข้างละ 5.6 กรัม
- กล่องชาร์จ: 42.8 กรัม
- ขนาดของ Driver : 10 มิลลิเมตร
- เซนเซอร์: VPU sensor/IMU sensor/Hall sensor/CAP sensor
- เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy
- Hybrid ANC ประสิทธิภาพสูง 52dB/4kHz
- ไมโครโฟนทืรศัพท์สามารถลดด้วย AI และ 3 Mic
- รองรับระบบเสียง Hi-Res และ Coaxial Dual Driver, LDAC
- ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 54 mAh
- กล่องชาร์จ: 480 mAh
- การชาร์จแบบมีสาย: USB-C, ไร้สาย: สูงสุด 2 วัตต์
- กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 ที่หูฟัง
- สีสัน : ขาว (Midnight White), ดำ (Midnight Black), ม่วง (Aurora Purple)
9. Samsung Galaxy Buds2 Pro
- เติมเต็มประสบการณ์ฟังเสียงที่เสมือนจริงไร้การบิดเบือน
- กระหึ่มรอบทิศทาง 360องศา ด้วย Dolby Atmos
- ตัดเสียงรบกวนดี้ขึ้น 40% [All high SNR Mic]
- AI Technology Voice Separation ช่วยคัดกรองเสียงรอบข้างออก และส่งเฉพาะเสียงพูดไปที่ปลายสาย
- การพูดคุยชัดแจ๋ว เหมือนอยู่ด้วยกัน โดยไร้เสียงรอบข้างกวนใจ
- Hand Free-Conversation Mode สลับ จาก ANC Mode เป็น Ambient Sound อัติโนมัติ
- ฟังเสียงและพูดคุยกับคนรอบข้างได้ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- Ergonimic Design : ดีไซน์ใหม่ ใส่สบายไม่เจ็บหู
- ขนาดเล็กลง 15% เพื่อให้ Fit พอดี ใช้ได้ยาวนาน หายห่วงเรื่องระคายหู
- ใส่ลุยได้ทุกโมเม้น จะเอนจอยเพลง เล่นกีฬาก็เอาอยู่ไม่มีหลุด
- Seamless Conectivity เชื่อมต่อสะดวก ไว ใช้งานได้ทันที
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดเคสหูฟัง ไม่ต้องเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง
- Auto Swith: สามารถสลับอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ
10. JBL Reflect Flow Pro
- ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกิจกรรม
- ตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ พร้อม Smart Ambient ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้าง
- ไดรเวอร์ไดนามิก 6.8 มม. มอบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าทึ่ง ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม
- ไมค์ทั้งหมด 6 ตัวที่ช่วยให้การสนทนาของคุณชัดเคลียร์และมีประสิทธิภาพ
- IP68 กันฝุ่นได้สมบูรณ์ อยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาที
- ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง มีเทคโนโลยี Wireless charging มาตรฐาน Qi
- ใช้คำสั่งเสียงได้ตามที่คุณต้องการ หรือแตะหูฟังเอียร์บัด เพื่อใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ
- ระบบควบคุมแบบสัมผัสปรับแต่งได้ทั้งหมดตามต้องการ
- ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการสวมใส่เพื่อใช้งาน
- แค่เปิดเคส หูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทันที สามารถปรับแต่งการทำงานได้ผ่านแอพ
- ป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68
แบรนด์ดังในไทย ยอดนิยม *หูฟังบลูทูธไร้สาย*
การเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธไร้สาย (Bluetooth) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมอบความสะดวกสบาย ความคล่องตัว และอิสระในการใช้งาน โดยไม่ต้องกังวลกับสายพันกัน หูฟังบลูทูทมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลายประเภท และราคา การเลือกซื้อหูฟังบลูทูทจึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. ไลฟ์สไตล์การใช้งาน หูฟังบลูทูทแต่ละแบบมีจุดเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน เช่น
- สายออกกำลังกาย ควรเลือกหูฟังแบบ In-Ear หรือ Earhook ที่กระชับ ไม่หลุดง่าย กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี
- สายฟังเพลง ควรเลือกหูฟังที่มีคุณภาพเสียงดี เสียงเบสแน่น รองรับไฟล์เพลงคุณภาพสูง เช่น FLAC หรือ ALAC
- สายคุยโทรศัพท์ ควรเลือกหูฟังที่มีไมโครโฟนคุณภาพดี รับเสียงชัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี
- สายเล่นเกม ควรเลือกหูฟังที่มีดีเลย์ต่ำ ตอบสนองได้รวดเร็ว
2. ประเภทของหูฟัง หูฟังบลูทูทแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- หูฟังแบบ In-Ear เป็นหูฟังที่ใส่เข้าไปในรูหู เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ออกกำลังกาย ฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์
- หูฟังแบบ Earhook เป็นหูฟังที่เกี่ยวหู เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ออกกำลังกาย ฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์
- หูฟังแบบ Over-Ear เป็นหูฟังครอบหู เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม
3. เทคโนโลยี Bluetooth เทคโนโลยี Bluetooth มีผลต่อระยะการเชื่อมต่อและคุณภาพเสียง โดยในปัจจุบัน เทคโนโลยี Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 เป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว
4. คุณภาพเสียง คุณภาพเสียงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อหูฟังบลูทูท โดยหูฟังบลูทูทแต่ละรุ่นจะมีไดรเวอร์ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อคุณภาพเสียง เช่น ไดรเวอร์แบบ Dynamic ให้เสียงเบสแน่น ไดรเวอร์แบบ Balanced Armature ให้เสียงแหลมคม
5. แบตเตอรี่ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา โดยหูฟังบลูทูทแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น ฟังเพลงต่อเนื่อง คุยโทรศัพท์ หรือเล่นเกม
6. ฟีเจอร์อื่นๆ หูฟังบลูทูทบางรุ่นอาจมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น กันน้ำ กันเหงื่อ ตัดเสียงรบกวน ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ เป็นต้น
7. ราคา ราคาหูฟังบลูทูทมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพเสียง เทคโนโลยี Bluetooth ฟีเจอร์ต่างๆ และแบรนด์
คำแนะนำในการเลือกซื้อหูฟังบลูทูท
- ควรทดลองสวมใส่หูฟังก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่สบาย ไม่หลุดง่าย
- ควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีประกันสินค้า
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อหูฟังบลูทูทที่ตรงใจคุณ